กลยุทธ์การเทรดที่ได้รับความนิยม

การซื้อขายในตลาด Forex และตลาดหุ้น ต่างต้องมีการใช้กลยุทธ์ในการเทรด เพราะถ้าหากคุณไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับกลยุทธ์การเทรด คุณก็จะเทรดแบบไม่มีแบบแผน ทำให้คุณขาดทุนได้ง่าย ๆ ดังนั้น บทความนี้จึงอยากพาทุกคนไปทำความรู้จักกับกลยุทธ์การเทรดแบบต่าง ๆ เพื่อให้คุณสามารถเลือกใช้ให้เหมาะสมกับตนเอง 

กลยุทธ์การเทรด คืออะไร ?

กลยุทธ์การเทรด คือ การตัดสินใจของเทรดเดอร์ ที่เพิ่มโอกาสในการทำกำไรในการเทรดหรือการซื้อขายสินทรัพย์ เพื่อให้เหมาะสมกับเทรดเดอร์ ซึ่งมีหลายปัจจัยที่เทรดเดอร์นำมาใช้ประกอบการตัดสินใจการเลือกกลยุทธ์ เช่น ระยะเวลาในการถือออเดอร์, เวลาที่ใช้ในการเทรดหรือเวลาที่เทรดเดอร์เฝ้าหน้าจอ เป็นต้น ดังนั้น เทรดเดอร์ไม่จำเป็นต้องใช้กลยุทธ์เพียงรูปแบบเดียวในการเทรด สามารถปรับได้ตามความเหมาะสม เพื่อที่จะรับมือกับสถานการณ์ของตลาด โดยเฉพาะตลาด Forex ที่มีความผันผวนสูง

เทรดเดอร์จึงต้องทำความเข้าใจกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมในการซื้อขายหรือการเทรด เพื่อให้การเทรดของคุณประสบความสำเร็จ โดยแบ่งกลยุทธ์ออกเป็น 2 ประเภท คือ กลยุทธ์การเทรดปกติ และกลยุทธ์ที่ซื้อขายแก้การขาดทุน 

กลยุทธ์ที่ใช้เทรดปกติ
1. Scalping 

รูปแบบ Scalping เป็นกลยุทธ์การเทรดที่เน้นทำกำไรเร็ว โดยเทรดเดอร์จะอาศัยจากความผันผวนในระยะเวลาสั้น ๆ ของราคา เช่น 1 ไปจนถึง 30 นาที ซึ่งสามารถใช้เครื่องมือช่วยในการเทรด เช่น Bollinger Bands เป็นต้น 

ข้อดี

- การเทรดแบบสั้น ๆ ถือว่ามีความปลอดภัย

- การเทรดแบบ Sclaping สามารถเห็นกำไรได้ในทันที

ข้อเสีย

- เทรดเดอร์ต้องนั่งเฝ้าหน้าจอ

- การเทรดแบบ Scalping มีความเสี่ยงสูง ซึ่งความถี่ของออเดอร์สามารถทำกำไรได้ แต่ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน

2.Day Trade 

รูปแบบ Day Trade เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ในการเทรดหรือการซื้อขายภายในวันเดียว และมีการปิดออเดอร์ให้เสร็จสิ้นก่อนจบวัน ทำให้ไม่มีการถือ Position ข้ามวัน ซึ่งมีลักษณะคล้ายกลยุทธ์การเทรดแบบ Scalping ความแตกต่างของทั้งสองกลยุทธ์ คือ ช่วงระยะเวลาในการทำกำไร 

ข้อดี

- ระยะเวลาในการเทรดสั้น ทำให้ทำกำไรได้อย่างรวดเร็ว

- การเทรดแบบ Day Trade ไม่มีความเสี่ยงเรื่องการถือออเดอร์ข้ามคืน

ข้อเสีย

- เทรดเดอร์ที่เลือกใช้กลยุทธ์ Day Trade อาจพบเจอปัญหาความเครียด เนื่องจากคุณต้องมีสมาธิ และต้องนั่งเฝ้าหน้าจอ

3. Swing trade 

รูปแบบ Swing trade เป็นรูปแบบการเทรดที่คาดหวังกำไรจากทุกการเคลื่อนไหวของกราฟ หรือการแกว่งของราคา ซึ่งแต่ละวันราคาในตลาด Forex มีการแกว่งตัวสูง จึงทำให้กลายเป็นกลยุทธ์ที่เทรดเดอร์นิยมใช้ มีการอาศัยคำสั่งรูปแบบ Pending เพื่อรอให้กราฟเคลื่อนที่ และเปิดคำสั่ง Buy หรือ Sell โดยเทรดเดอร์คาดหวังกำไรในระยะสั้น 

ข้อดี

- การเทรดแบบ Swing Trade มีประสิทธิภาพมากที่สุดในตลาดที่มีความผันผวน

- เทรดเดอร์ที่ใช้การเทรดแบบ Swing Trade มีเครื่องมือที่ช่วยในการเทรดให้เลือกหลากหลาย

ข้อเสีย

- ความเสี่ยงสูง เนื่องจากการถือออเดอร์ข้ามคืน และการถือออเดอร์เป็นเวลานาน

- กลยุทธ์การเทรดไม่เหมาะกับเทรดเดอร์ที่ต้องการถือกำไรระยะยาว

4. Trend Trading 

รูปแบบ Trend Trading เป็นการเทรดโดยดูแนวโน้มการเคลื่อนที่ของกราฟที่เป็นที่นิยม มีรูปแบบการเทรดในตลาดมีแนวโน้มที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นขาขึ้นหรือขาลง ซึ่งก่อนที่คุณจะเปิดออเดอร์ คุณควรทำการวิเคราะห์แนวโน้มของตลาด เพื่อให้คุณทำการเปิดออเดอร์ซื้อขายไปในทิศทางเดียวของตลาด โดยเทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์ Trend Trading เชื่อว่าการทำตามเทรนด์เป็นการเทรดที่มีความปลอดภัยสูง 

ข้อดี

- เทรดเดอร์ไม่ต้องเฝ้าหน้าจอ

- เทรดเดอร์สามารถเลือกระยะการเทรดได้ง่าย เนื่องจากเลือกรูปแบบการเทรดตามเทรนด์

ข้อเสีย

- รูปแบบการเทรดเป็นแบบระยะยาว ต้องใช้ต้นทุนสูง ไม่เหมาะกับเทรดเดอร์ระยะสั้น

- เทรดเดอร์ต้องมีความอดทน และใจเย็น ถึงแม้เทรดเดอร์จะได้กำไรหรือขาดทุน ในช่วงที่เทรนด์กำลังเคลื่อนที่ 

กลยุทธ์ที่ซื้อขายแก้การขาดทุน

1. Hedging

การเทรดแบบ Hedging คือ การป้องกันความเสี่ยง Forex เป็นการ Buy หรือการ Sell ในคู่เงินเดียวกัน และจำนวน Lot เท่ากัน เพื่อป้องกันการโดนล้างพอร์ตในกรณีที่คุณทำพลาดหรือกรณีที่ตลาดมีความผันผวนรุนแรง

ข้อดี

- ป้องกันการโดนล้างพอร์ต

- การเทรดแบบ Hedging สามารถป้องกันการขาดทุนได้ เมื่อตลาดเกิดความผันผวน

ข้อเสีย

- เทรดเดอร์ต้องใช้ประสบการณ์ค่อนข้างมากในการเทรดรูปแบบ Hedging

- บางโบรกเกอร์ไม่อนุญาตให้เทรดรูปแบบ Hedging

กล่าวโดยสรุป กลยุทธ์การเทรดถือว่ามีความสำคัญกับเทรดเดอร์ เนื่องจากช่วยเพิ่มโอกาสในการเทรดให้ประสบความสำเร็จ โดยกลยุทธ์ที่ทางทีมงานได้กล่าวถึงในบทความไม่ว่าจะเป็นรูปแบบ Scalping, รูปแบบ Day Trade หรือรูปแบบ Martingale เป็นเพียงกลยุทธ์ที่เทรดเดอร์นิยมใช้ แต่ในตลาดการลงทุนยังมีอีกหลายกลยุทธ์ ซึ่งเทรดเดอร์สามารถศึกษา และวิเคราะห์ว่า กลยุทธ์รูปแบบไหนที่เหมาะสมกับตนเอง อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์ที่เข้ามาช่วยให้เทรดเดอร์สามารถทำการวางแผนการเทรด และตัดสินใจในการเทรด ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสการทำกำไร แต่เทรดเดอร์อย่าลืมว่า การลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ดังนั้น เทรดเดอร์ควรเตรียมตัวรับมือกับความเสี่ยงเสมอ

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สามารถศึกษาความรู้เพิ่มเติมดังต่อไปนี้

คอร์สเรียนสำหรับมือใหม่ ฟรี!! : คลิกที่นี่

คลังบทความความรู้เพิ่มเติม : คลิกที่นี่

บทความรีวิวโบกเกอร์เพิ่มเติม : คลิกที่นี่

บทวิเคราะห์รายวัน : คลิกที่นี่