สำหรับเทรดเดอร์แล้วนั้น การเลือกโบรกเกอร์เพื่อใช้ในการเทรดในตลาดต่างๆ ก็สำคัญ โดยเราควรเลือกโบรกเกอร์ที่มีการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง เพราะแสดงถึงความมั่นคง ความปลอดภัย โดยมีหน่วยงานรับรอง
ในส่วนของหน่วยงานที่ทำหน้าที่จดทะเบียนชั้นนำ 3 แห่งหลักๆ ได้แก่
1. Financial Conduct Authority (FCA, UK)
2. Australian Securities and Investments Commission (ASIC, Australia)
3. Cyprus Securities and Exchange Commission (CySec, Cyprus)
และในด้านของช่องทางการฝาก-ถอน เทรดเดอร์ควรเลือกใช้โบรกเกอร์ที่รับรองการฝาก-ถอนผ่านธนาคารของไทย เพราะการที่โบรกเกอร์ไม่สามารถรองรับการฝาก-ถอนในไทย อาจจะทำให้เกิดค่าธรรมเนียมที่สูง เช่น การฝากถอนผ่านบัตร Visa, MasterCard โดยมักจะมีค่าธรรมเนียมประมาณ 2-3% และอาจทำให้การดำเนินการฝาก-ถอน หรือเกิดความล่าช้า เช่น การถอนเงินผ่าน Bank Wire Transfer, PayPal ที่ต้องใช้เวลาหลายวัน
ค่า Commission และค่า Spread
ควรมองหาโบรกเกอร์ที่มีอัตราค่า Commission และค่า Spread ต่ำ เพราะเทรดเดอร์จะทำกำไรได้สูง ส่วนโบรกเกอร์ที่มีค่า Commission และค่า Spread สูง จะส่งผลให้เหล่านักเทรดทำกำไรในการเทรดได้น้อยลงนั่นเอง
Promotion
ในปัจจุบัน มีการแข่งขันที่สูงขึ้น เพราะมีโบรกเกอร์ Forex เกิดขึ้นมากมาย ซึ่งแต่ละโบรกเกอร์ต่างมีการทำ Promotion ออกมาเพื่อเอาใจลูกค้า ดังนั้น เทรดเดอร์จึงควรเลือกใช้ โบรกเกอร์ที่มีข้อเสนอที่ดีที่สุด ควบคู่ไปกับการดูสิ่งอื่นๆ ประกอบด้วย
ฝ่าย Chat Support
เทรดเดอร์ควรเลือกโบรกเกอร์ที่มีฝ่าย Support ที่รองรับภาษาไทย, มี Live Chat ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งตรงนี้ จะช่วยดูแลนักเทรดได้ เมื่อเกิดความขัดข้องหรือมีปัญหาในการใช้โบรกเกอร์สำหรับเทรด
