Chart patterns คืออะไร ?

  Posted on 4 years ago (Jan 27, 2020)
8238
List of content
Chart patterns คืออะไร ?

เทรดเดอร์ Forex ที่เป็นสาย Technical นั้นสามารถแบ่งได้เป็นอีกหลายสาย ในวันนี้หนึ่งในสายที่สำคัญคือ สายดูรูปแบบราคา หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า Chart patterns นั้น มักจะคุ้นเคยกับรูปแบบราคาของตัวเอง โดยรูปแบบราคา ส่งผลต่อการเทรด และการทำกำไรในการเทรด Forex ซึ่งรูปแบบราคาที่สามารถทำกำไรของแต่ละคนนั้นจะแตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม จะมีรูปแบบราคาไม่กี่ประเภทเท่านั้นที่จะสามารถสร้างกำไรได้บ่อยเพราะว่า มันเกิดขึ้นบ่อย และสามารถใช้ได้ง่าย สามารถทำความเข้าใจได้ง่ายนั้นเอง

 

3 กลุ่มรูปแบบราคา คืออะไร ?

รูปแบบราคาที่เป็นที่รู้จักในตลาดเป็นส่วนใหญ่ได้แก่ รูปแบบต่างๆ เช่น Double top , Head and shoulder , สามเหลี่ยม เป็นต้น ซึ่งบทความนี้เราจะมาสรุปประเภทของรูปแบบราคาต่าง ๆ นี้ ออกมาเป็น 3 กลุ่ม คือ

1. รูปแบบการกลับตัว

2. รูปแบบการเคลื่อนไหวต่อเนื่อง 

3. รูปแบบ  2 ทาง

 

1.รูปแบบการกลับตัว

รูปแบบกลับตัว

รูปแบบการกลับตัว คือ เมื่อราคาฟอร์มตัวในรูปแบบการกลับตัวแล้ว มันจะบ่งบอกสัญญาณว่า ราคาจะเปลี่ยนทิศทาง จากการเคลื่อนไหวในทิศทางขาลง เป็นทิศทางขาขึ้น หรือ!! จากทิศทางขาขึ้นเป็นขาลง รูปแบบกราฟสัญญาณกลับตัวนั้น มีอยู่ 6 รูปแบบ หลัก ๆ ดังต่อไปนี้ 

1.1 Double top 

รูปแบบ Double Top คือ การที่ราคาเคลื่อนไหวเป็นหยัก 2 หยักที่ตรงจุดยอด หรือ จุด Top เลยเรียกว่า Double Top ซึ่งการเกิด Double Top กำลังหมายความว่า ราคาพยายามที่จะทำ New High แต่ว่าไม่สามารถที่จะ ทำ New High ได้ ทำได้ดีที่สุดคือ การขึ้นไปเทียบกับราคาเดิม เมื่อเกิดเหตุการณ์ เช่นนี้ทำให้ราคาดีดกลับลงมาต่ำกว่าเดิมและเปลี่ยนทิศทางไปเลย จากขาขึ้นเป็นขาลง

1.2 Double bottom

ส่วนรูปแบบ Double Bottom เป็นรูปแบบตรงข้ามกับรูปแบบ Double Top เพียงแต่มันเกิดขึ้นในทิศทางตรงกันข้าม กล่าวคือ ราคาพยายามจะลงต่อเพื่อทำ  New Low นั่นแหละแต่ไม่ประสบความสำเร็จทำให้การเคลื่อนไหวเปลี่ยนทิศทางกลับเป็นขาขึ้น ซึ่งรูปแบบ 2 รูปแบบ เป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมในการเทรด สูงสุดและสามารถวิเคราะห์ได้ง่าย มีเหตุมีผลในการวิเคราะห์ 

1.3 Head and shoulders

่รูปแบบหัวและใหล่ ก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่มีความสำคัญต่อการเทรด เพราะว่ารูปแบบหัวและใหล่นั้นสามารถดูได้ง่ายเช่นเดียวกัน รูปแบบหัวและไหล่ จะคล้ายคลึงกับ Double Top และ Double Bottom เพียงแต่ว่า จะมียอดอยู่ 3 ยอดด้วยกัน โดยที่ยอดแรกกับยอดสุดท้ายจะเท่ากัน และยอดตรงกลางจะสูงสุดหรือต่ำสุด รูปแบบ Head and Shoulder นี้ก็จะเกิดได้ทั้งขาขึ้นและขาลง เช่นเดียวกับรูปแบบอื่น ๆ โดยจะเรียกว่า รูปแบบ Head and Shoulder กลับหัว หรือ inverse head and shoulders

1.4 Inverse head and shoulders

ในการเทรดรูปแบบเหล่านี้ ทำให้อย่างง่ายดายโดยเพียงรอราคาทะลุผ่านเส้น Neckline และก็เข้าไปเปิดออเดอร์ในทิศทางเดียวกับแนวโน้มใหม่ ส่วนเป้าหมายการทำกำไรในแต่ละรูปแบบก็จะแตกต่างกันออกไปครับ

 

2.รูปแบบราคา การเคลื่อนไหวต่อเนื่อง (Continuation)

รูปแบบไปต่อ

เมื่อเกิดรูปแบบราคาในลักษณะนี้ ราคามักจะเคลื่อนไหวต่อไป ตามทิศทางเดิมของเทรนด์ก่อนหน้า  เช่น เทรนด์ก่อนหน้าเป็นเทรนด์ขาขึ้น หลังจากนั้นจะมีการพักฐานเพียงชั่วครู่หนึ่งแล้วจะเป็นขาขึ้นต่อ ขณะเดียวกันการเคลื่อนไหวเดิมเป็นขาลง หลังจากนั้นก็จะเป็นขาลงต่อไปเช่นเดียวกัน โดยรูปแบบการเคลื่อนไหวต่อเนื่องของ รูปแบบราคานี้จะประกอบด้วย

2.1 Falling wedge

คือกราฟรูปแบบสามเหลี่ยมรูปลิ่ม เฉียงลง ซึ่งสามเหลี่ยมจะค่อย ๆ แคบจนเป็นรูปลิ่ม และจะเกิดสัญญาณ Break Out คือทะลุรูปแบบ 3 เหลี่ยมออกมา โดยจะเคลือ่นไหวไปทิศทางเดียวกับเทรนด์ก่อนหน้า นั่นคือเทรนด์ขาลง 

2.2 Rising wedge

คือ รูปแบบราคาที่ตรงข้ามกับ Falling Wedge ซึ่งสามเหลี่ยมจะกลับด้านกับรูปแบบ Falling Wedge ซึ่งทิศทางของเทรนด์สำหรับรูปแบบ Rising Wedge คือ การเคลื่อนไหวต่อเนื่องจากเทรนด์ขาลงเป็นเทรนด์ขาขึ้น 

2.3 Bullish rectangle

รูปแบบ Bullish Rectangle หรือรูปแบบ 4 เหลี่ยมผืนผ้าขาขึ้น เป็นรูปแบบที่ราคาพักฐานสักครู่หนึ่งก่อนที่จะเคลื่อนไหวต่อไปข้างหน้าเป็นขาขึ้น 

2.4 Bearish rectangle

รูปแบบ Bearish Rectangle เป็นรูปแบบ 4 เหลี่ยมผืนผ้าขาลง คือราคาพักการเคลื่อนไหวเพื่อสะสมแรงเพียงชั่วครู่หลังจากนั้นเคลื่อนไหวเป็นขาลงต่อไป 

2.5 Bullish pennant

เป็นรูปแบบ 3 เหลี่ยมธง คล้ายคลึงกับรูปแบบ Wedge เพียงแต่ลักษณะสามเหลี่ยมจะยาวกว่า คล้าย ๆ ธงสามเหลี่ยม รูปแบบ Bullish ก็แสดงถึงขาขึ้น ที่ราคาจะไปต่อเมื่อพักฐานและเกิด Breakout ขณะที่รูปแบบตรงข้ามของมันคือ Bearish Pennant ที่เป็นรูปแบบของขาลง 

2.6 Bearish pennant

แต่ละรูปแบบก็น่าตาต่างกันออกไป เป้าหมายการทำกำไร หรือจุด Stop loss ก็ต่างกัน แต่หลักการเดียวกันคือเป็นการไปต่อของแนวโน้ม

 

3.รูปแบบราคา ทั้ง 2 ทาง

รูปแบบนี้โอกาสการเคลื่อนไหวของราคา และ การเกิด Break Out สามารถเกิดขึ้นได้หลายทาง ตัวอย่าง การทะลุของราคาสามารถเกิดขึ้นไปทั้ง 2 ทางเลยคือ ไปต่อ หรือเกิดรูปแบบ กลับตัว โดยรูปแบบนี้จะเป็นพวกรูปแบบสามเหลี่ยม

3.1 Ascending triangle

3.2 Descending triangle

3.3 Symmetrical triangle

 

ตามรูปแบบที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ก็ไม่ได้หมายความว่า มันจะต้องมีการเคลื่อนไหวที่เป็นไปตามทฤษฎี หรือรูปร่างของราคาที่กล่าวมาตามนี้เป๊ะ ๆ เพียงแต่ว่ามีโอกาสและความน่าจะเป็นสูง ถ้าหากนับรูปร่างหรือระยะทางอาจจะไม่เหมือน แต่มีความคล้ายคลึงกันด้านรูปร่าง นั่นคือ โอกาสที่เราจะสามารถใช้เทรด มันก็มีบ้างเหมือนกันที่มีโอกาสที่ราคาจะไปไม่ถึงเป้าหมายที่วางเป้าหมายหรืออาจเกิดความล้มเหลวในการสร้างรูปแบบก็ได้ ดังนั้นเทรดเดอร์ Forex ที่เทรดรูปแบบราคานั้นก็อย่าลืมวาง Stop loss ก็ด้วยนะครับ หมั่นฝึกฝน ดูแนวโน้มจนชิน บางครั้งอาจต้องใช้ประสาทสัมผัสและการประมวลผลหลายด้าน แต่เมื่อชำนาญแล้วมันจะคุ้มค่าต่อการฝึกฝนมากครับ เป็นกำลังใจให้กับ Treader Forex ทุกคนครับ 

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สามารถศึกษาความรู้เพิ่มเติมดังนี้

คอร์สเรียนสำหรับมือใหม่ ฟรี!! : คลิกที่นี่

คลังบทความความรู้เพิ่มเติม : คลิกที่นี่

บทความรีวิวโบกเกอร์เพิ่มเติม : คลิกที่นี่

บทวิเคราะห์รายวัน : คลิกที่นี่

 


บทความ แนะนำ
คอร์สเรียน Forex ยอดนิยม