การเทรด Forex นับเป็นการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของค่าเงิน แต่เงินตราคืออะไร? เริ่มได้อย่างไร และเงินตราในอดีตและปัจจุบันแตกต่างกันหรือไม่ เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จัก
เงินตรา คือ สื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ ซึ่งเป็นวัตถุที่มีมูลค่า หรือเป็นตัวแทนการวัดมูลค่าที่ถูกยอมรับร่วมกันในระดับสากล หรือระดับประเทศ ทำให้ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจ
ในอดีต สิ่งของ เช่น เปลือกหอย เมล็ดพืช หรือแม้แต่สินค้าและบริการถูกใช้เป็นเงินตรา (Commodity Money) แต่หลังจากนั้น สิ่งของเหล่านี้ไม่สามารถบ่งบอกถึงหน่วยวัดมูลค่าที่แท้จริงได้ การพกพา หรือการแบ่งหน่วยเงินก็เป็นไปได้ยาก ทำให้มีการปฏิวัติการเงินเกิดขึ้น การเปลี่ยนจากสินค้าโภคภัณฑ์มาเป็นเหรียญโลหะเริ่มทำให้ภาพของเงินตราชัดมากขึ้น
อย่างไรก็ดี มันยังคงมีปัญหาที่ตามมาอยู่บ้าง เนื่องจากเหรียญโลหะไม่มีหน่วยที่ชัดเจน ดังนั้น จึงเริ่มมีการแบ่งหน่วยเงิน เพื่อให้สะดวกต่อการใช้จ่าย เช่น เงิน 1 เฟื้อง มีมูลค่าเท่ากับ 800 เบี้ย เป็นต้น
การเปลี่ยนแปลงครั้งสุดท้าย คือ การเปลี่ยนมาเป็นเหรียญกษาปณ์ และธนบัตร (Fiat Money) ซึ่งในประเทศไทย การเปลี่ยนจากเงินพดด้วงที่ทำด้วยแร่โลหะมาเป็นเหรียญกษาปณ์ เริ่มต้นขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 และเริ่มมีการใช้ธนบัตร ช่วงรัชกาลที่ 5
ขณะนั้น ไทยเริ่มมีการติดต่อกับชาวต่างชาติมากขึ้น ทำให้ความต้องการเงินสูงขึ้น เงินรูปแบบเก่า ๆ จึงไม่เหมาะสมนัก อีกทั้ง เงินรูปแบบเก่ายังยากต่อการแลกเปลี่ยนกับเงินสกุลอื่น ๆ การเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ทันโลกจึงนับเป็นก้าวสำคัญ
การผลิตเหรียญกษาปณ์ และการพิมพ์ธนบัตรออกมาใช้นั้น จำเป็นต้องมีการ "อ้างอิงด้วยทองคำ" ซึ่งถือเป็นหน่วยกักเก็บมูลค่าที่ทั่วโลกยอมรับ ดังนั้น การจะพิมพ์เงินออกมาใช้ในแต่ละครั้งจึงต้องคำนึงถึงเงินในระบบ รวมถึงในคลังของประเทศด้วย หากประเทศใดไม่มีหลักค้ำประกัน ก็จะทำให้เงินของประเทศนั้น ๆ เสื่อมมูลค่าได้
ดังนั้น การบริหารความสมดุลของค่าเงินจึงเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการดูแลค่าเงิน รวมถึงสมดุลของระบบเศรษฐกิจก็คือ "ธนาคารกลาง"
แม้ว่าในอดีต เราจะใช้เงินในการแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกัน แต่มูลค่าของเงินนั้นกลับวัดได้ยาก ดังนั้น หลังจากทั่วโลกมีการเปลี่ยนระบบเงินตราแล้ว หน้าที่ของเงินจึงประกอบไปด้วยองค์ประกอบเหล่านี้ คือ
1) สื่อกลางการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ
2) หน่วยวัดมูลค่าของสินค้าและบริการ
3) เครื่องเก็บรักษามูลค่า
4) มาตรฐานในการชำระหนี้ภายหน้า
ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex) คือ สถานที่ที่ผู้คนนำเงินตราของแต่ละประเทศมาซื้อขายแลกเปลี่ยน เพื่อจุดมุ่งหมายในการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของค่าเงิน เนื่องจากค่าเงินมักจะเคลื่อนไหวตามกลไกตลาด แต่การซื้อขายค่าเงินในตลาด Forex อนุญาตให้แลกเปลี่ยนสกุลเงิน 2 สกุล ในอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัวหรือคงที่ได้ตามเงื่อนไขของโบรกเกอร์ ทำให้ธุรกิจจากทั่วโลกสามารถทำธุรกรรมได้อย่างสมบูรณ์ ลดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
ดังนั้น การแลกเปลี่ยนค่าเงินบนตลาด Forex จึงได้รับความนิยมสูง ไม่เพียงกับนักเทรด แม้แต่นักลงทุน หรือกลุ่มสถาบันก็เช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นตลาดที่มีสภาพคล่องสูง เปิดทำการ 24 ชั่วโมง ผู้ค้ารายใหญ่สามารถได้ข้อเสนอที่ดีกว่าผู้ค้ารายย่อย
ในการแลกเปลี่ยนเงินตราบนตลาด Forex มีสกุลเงินที่ได้รับความนิยม อาทิเช่น
คู่สกุลเงินที่ได้รับความนิยม คือ EUR/USD, GBP/USD และ USD/JPY
คู่สกุลเงินที่ได้รับความนิยม คือ EUR/USD, EUR/JPY และ EUR/GBP
คู่สกุลเงินที่ได้รับความนิยม คือ USD/JPY และ EUR/JPY
คู่สกุลเงินที่ได้รับความนิยม คือ GBP/USD และ GBP/EUR
คู่สกุลเงินที่ได้รับความนิยม คือ AUD/USD
โดยสรุปแล้ว "เงินตรา" ก็คือ สื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ ซึ่งสามารถชำระหนี้ได้ในทางกฎหมาย มีมูลค่าเพิ่มขึ้น หรือลดลงตามหลักกลไกตลาด โดยมีหลักค้ำประกันในการพิมพ์เงิน คือ ทองคำ ซึ่งเงินตรา นอกจากจะสามารถใช้ชำระค่าสินค้าต่าง ๆ แล้ว ยังสามารถนำมาเป็นสินทรัพย์สำหรับการทำกำไรได้ด้วยเช่นกัน
Source : กองกษาปณ์, วารสารวิจัยราชภัฎกรุงเก่า, ธนาคารแห่งประเทศไทย
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สามารถศึกษาความรู้เพิ่มเติมดังนี้
คอร์สเรียนสำหรับมือใหม่ ฟรี!! : คลิกที่นี่
คลังบทความความรู้เพิ่มเติม : คลิกที่นี่
บทความรีวิวโบกเกอร์เพิ่มเติม : คลิกที่นี่
บทวิเคราะห์รายวัน : คลิกที่นี่